ในแถบเครื่องของ toolbar Timeline จะมีเครื่องมือ ชื่อ ‘Edit Multi Frame’ อยู่

ก็เปิดเจ้าเครื่องมือตัวนี้ซะ แล้วเลือก frame ที่เราจะแก้ไขทั้งหมด (อย่าลือล็อค layer ที่ไม่ต้องการแก้ไข)

จะนั้นออปเจคของทุกเฟรมที่เลือกไว้จะแสดงบนซีนเองทำก็เลือกออปเจคแล้วแก้ไขตำแหน่งไปพร้อมๆกันได้เลย

ที่ก็เป็นเรื่องง่ายๆนะ ถ้าหัดใช้ Adobe Flash มาแบบจริงจัง แต่มันเป็นเรื่องง่ายๆที่รู้

NOW() และ SYSDATE()

คำสั่ง NOW() จะคืนค่าเวลาที่ Query เริ่มทำงาน แต่ SYSDATE() จะคืนค่าเวลาในขณะนั้น

โดยจะคืนมาในรูปแบบดังนี้

String[NOW()] -> ‘YYYY-MM-DD HH:MM:SS’

Numberic[NOW()+0] -> YYYYMMDDHHMMSS.uuuuuu

โดยปกติจะคืนค่ามาในรูป String แต่ถ้ามีการทำการบวกลบจะคือค่าในรูป Numberic แทน

การใช้คำสั่ง DATE_ADD, DATE_SUB

DATE_ADD(date,INTERVAL expr unit)

DATE_SUB( date, INTERVAL expr unit )

date คือ วันเวลา

INTERVAL expr unit คือ จำนวนที่จะให้ทำการเพิ่มหรือลดเวลา (มีอธิบายอยู่ท้ายบล็อค)

ตัวอย่าง

1 วัน หลังวันที่ 2010-12-31 = DATE_ADD( ’2010-12-31′, INTERVAL 1 DAY )

3 นาทีที่แล้ว = DATE_SUB( NOW(), INTERVAL 3 MINUTE )

ในรูปแบบสมการ

ตัวแปรเวลาและ INTERVAL expr unit จะสามารถนำมาใช้ในรูปสมการได้

ตัวอย่าง

1 วัน หลังวันที่ 2010-12-31 = ’2010-12-31′ + INTERVAL 1 DAY

3 นาทีที่แล้ว = NOW() – INTERVAL 3 MINUTE

INTERVAL expr unit

คือรูปแบบที่แทนค่าเวลา ซึ่งจะขึ้นด้วย INTERVAL, รูปแบบของข้อมูล (expr), และหน่วย (unit)

ตัวอย่าง

- เวลา 1 วินาที = INTERVAL 1 SECOND

- เวลา 1 นาที 1 วินาที = INTERVAL 1:1 MINUTE_SECOND

- เวลา 1 วัน 1 ชั่วโมง = INTERVAL 1 1 DAY_HOUR หรือ INTERVAL 1 1:0:0 DAY_SECOND

ตอนจบการศึกษามาใหม่ๆ เราอยากทำงานกันตามสบาย ไม่อยากไม่มีข้อกำหนด หรือข้อบังคับอะไรมากมาย แต่ในวันนี้เราก็สร้างข้อกำหนดและข้อบังคับขึ้นมาเอง เพื่อให้พวกเรา หรือคนผู้ร่วมงาน(ผมนี้แหละ = =”)  ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มจากมี office hour เป็นหลักเป็นเวลา มีลงชื่อเข้างาน แล้วตอนนี้ก็มีพนักงานแล้วข้อกำหนดก็ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ต่างไปจากตอนแรกเยอะเอามากๆเลย แต่ข้อบังคับเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้จริงๆ แต่การทำงานให้เป็นระบบ ไม่ได้มีแต่เรื่องข้อบังคับเท่านั้น ยังมีเรื่องการวางแผนงานซึ่งจุดนี้ช่วยป้องกันการทำงานกันแบบ “เหนื่อยฟรี” ได้ และสามารถทำงานไปล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องรอการประชุมกันใหม่ การเขียนโค๊ดก็สามารถเขียนเผื่อไว้สำหรับระบบต่อไปได้ด้วย จะได้ไม่ต้องกลับมาแก้โค๊ดเก่าๆ เวลาจะทำระบบเพิ่ม

สุดท้ายจะขึ้นปีใหม่แล้ว ก็ขอสุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้สิ่งร้ายๆหายไปพร้อมกับปีเก่า แล้วเริ่มต้นปีใหม่ กันอย่างมีความสุขนะทุกท่าน

ปล.ปีหน้าจะพยายามขยันทำงานนะ

เกมที่เราจะมารีวีวกันต่อไปคือ เกม Epic Fighters

เกมนี้เป็นเกมที่ค่อนข้างคล้ายกับ เกมตระกูล mafia wars โดย Stamina ไว้ทำกิจกรรมต่างๆในเกม ระบบ “Do job” ,”Attack” และ “Raid boss” จุดน่าสนใจในตัวเกมจะมีระบบ skill และระบบสวมใส่อุปกรณ์ที่ทำออกมาได้ดูดีมากๆ

Status พื้นฐาน

- Energy พลังเวทมนต์ใช้ในการต่อสู้

- Health พลังชีวิตใช้ในการต่อสู้ เพิ่มเอง 10 แต้ม ทุกๆ 45 วินาที

- Stamina ใช้ในการทำภารกิจต่างๆ เพิ่มเอง 1 แต้ม ทุกๆ 45 วินาที

- Attack พลังโจมตี

- Defense พลังป้องกัน

เมื่อเรา level up จะได้แต้ม 4 แต้ม สามารถเอาเพิ่ม Energy, Health หรือ Stamina ได้ ส่วน Attack และ Defense สามารถเพิ่มได้จากอุปกรณ์สวมใส่ และยศเท่านั้น

ระบบ Skill

Skill ใน Epic Fighters แบ่งออกเป็นทักษะต่อสู้กับทักษะเวทมนตร์ โดยแบ่งทักษะต่อสู้เป็น 3 อาชีพ คือ Gladiator, Paladin และ Assassin ส่วนทักษะเวทมนตร์จะแยกเป็น Blood, Elemental และ Summoning ซึ่งเมื่อสมัครเข้าเล่นครั้งแลก เราจะได้เลือกอาชีพ และสายเวทย์ประจำตัว โดยการเลือกนี้มีผลให้ค่าเรียนทักษะในสาขานั้นถูกลงเท่าตัว

รูปแบบ Skill ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น โจมตี ป้องกัน และสวนกลับ เช่น สมุมติถ้ามีทักษะโจมตี A จะมีทักษะป้องกันการโจมตี A และทักษะสวนกลับการโจมตี A

เมื่อเราเรียน skill ไปแล้วจะสามารถเลือกว่าจะใช้ทักษะหรือไม่ แต่ต้องเลือกทักษะโจมตีอย่างน้อย 2 ทักษะ

ราคาในการเรียนนั้น เรียงจากน้อยไปมากจะเป็น

โจมตี < ป้องกัน < สวนกลับ

ส่วน Energy ที่ใช้ในการร่ายทักษะจะเป็น

ป้องกัน < โจมตี < สวนกลับ

ระบบหลักในเกม

ระบบในเกมที่ผู้เล่นจะเลือกทำได้หลักๆจะแยกออกเป็น 3 ระบบด้วยกัน คือ

ระบบ Quest

ระบบ quest ของเกมนี้ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ไปจากระบบเดิมๆ และตัวเลือกยังเป็นเส้นตรงซะด้วย คือ เมื่อทำ quest นึงจบ ระบบจะทำการเปลี่ยน quest ให้ทันที ผู้เล่นจะไม่สามารถเลือกว่าทำ quest ไหนก่อนหลังได้ แต่จะมี quest พิเศษ หรือ quest event จะมีเวลาจำกัด เมื่อเราเริ่มทำภารกิจเวลาจะเริ่มนับถอยหลังทันที

ระหว่างการทำ quest เราอาจจะต้องต่อสู้ monster ตามเนื้อเรื่องก็ได้ โดยการต่อสู้จะเกิดขึ้นแบบสุ่ม และจะทำ quest ต่อไปไม่ได้จนกว่าจะชนะการต่อสู้ได้ แต่ถ้าหากเราไม่ต้องการจะต่อสู้ ก็สามารถจ่าย gold bars เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้

ระบบ Duel

คือการสุ่มเอาผู้เล่นอื่นที่มี level ใกล้เคียงออกมาให้เลือกท้าต่อสู้ โดยมีเงินและค่าประสบการณ์เป็นรางวัลจากต่อสู้ แต่ถึงแม้จะแพ้เราก็ยังได้เงิน และค่าประสบการณ์ในจำนวนที่น้อยลง

ในหน้าเลือกคู่ต้องสู้เราจะเห็น skill และอุปกรณ์สวมใส่ของคู่ต่อสู้ ทีนี้เราก็พอประเมินได้ว่า skill และอุปกรณ์สวมใส่ของเราจะสู้ได้หรือไม่

ระบบ Epic Boss Fights

ระบบ epic boss ของเกมนี้ ค่อนข้างเข้าถึงได้ง่ายกว่าเกมแบบเดียวๆกันนี้ เพราะเมื่อ level ของเราถึงตามที่กำหนด เราจะสามารถเลือกต่อสู้กับ boss เหล่านี้ได้ทันที ไม่ต้องหา item มาปลดล็อคอีก แต่ boss ทุกตัวเมื่อถูกปราบได้แล้ว เราจะไม่สามารถกลับไปต่อสู้ได้ฟรีๆอีกแล้ว ถ้าต้องการจะต่อสู้กับบอสเก่าๆ เราจะต้องจ่าย gold bars เพื่อ summon บอสออกมา

ระบบการต่อสู้

ระบบการต่อสู้จะอิงอยู่บนระบบ Turn-Base คือผลักกันโจมตี เริ่มจากฝ่ายโจมตีจะร่ายทักษะโจมตีที่มี แล้วฝ่ายป้องกันจะร่ายทักษะป้องกัน หรือสวนกลับต่อไป และผลัดกัน จนกว่าจะ Health ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมด การร่ายทักษะต่างๆจะใช่ค่อ Energy ของผู้ร่ายถ้าค่า Energy ไม่พอร่ายทักษะโจมตี จะต้องเสีย 2 turn เพื่อฟื้น Energy บางส่วน

ระบบ social ถูกนำมาใช้อย่างไรบ้าง ?

Epic Fighters ไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นต้องเล่นกับเพื่อหลายๆคนมากนัก ส่วนที่น่าเป็นปัจจัยมากที่สุด คือ ระบบ Clan คือการ invite เพื่อนมา เพื่อนปลดล็อคระบบหาเงิน (ระบบปลูกผัก) แบบหลายๆช้่วโมงได้ และ Epic Boss ที่ต้องการเพื่อนมาช่วย นอกนั้นจะเป็น Publish และ Free gift เหมือนเกมอื่นๆ

บทสรุป

Epic Fighters ได้มีการปรับปรุงไปเยอะมากในหลายๆเดือนที่เปิดให้บริการมา ระบบต่างๆทำออกมาได้ดูดี Art work ในเกมก็สวยงาม แต่ไม่ค่อยรู้สึกสนุก และการเติมโตของตัวละครในแต่ละ level ไม่ทำให้เห็นความแตกต่างเลย ถ้าให้วาดเป็นกราฟจะได้เป็นเส้นตรงเส้นนึงเลย ก็ให้คะแนนไป 6 / 10 ละกัน

ระบบในเกม

โดยเนื้อหาของเกมจะเป็นเกม RPG ที่จะนำเราและเพื่อนลงไปตลุยดันเจียนต่างๆ สังหารมอนสเตอ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และสะสมไอเทมระดับเทพ แต่จะเป็นนักตลุยดันเจียนได้เนี่ย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีดาบตกทอดบรรพบุรุษไปซะทุกคนหรอก ตัวละครในเกมนี้ของเราก็เช่นกัน !! ซึ่งเริ่มต้นมาเราจะ”ไม่มีอะไรเลย” มีแค่ไม้ติดมือมา 1 ท่อน ก็เป็นความแปลกใหม่ที่เราจะได้พบในเกมนี้กัน

แน่นอนว่าเป็นเกม RPG แล้วสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้เลยระบบอาชีพตัวละคร โดยจะแบบออกเป็น 4 สายด้วยกัน คือ นักรบ (Warrior), นักเวท (Magician), โจร (Thief) และพระ (Monk) การเปลี่ยนอาชีพในเกมนี้สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนอาวุธที่ใช้  ซึ่งแต่ละอาชีพก็มีความแตกต่างกันไป

• นักรบ (Warrior) อาวุธที่ใช้ ดาบ : เป็นอาชีพสายแท็งค์เต็มตัว
• นักเวท (Magician) อาวุธที่ใช้ ไม้เท้า : อาชีพที่สามารถทำความเสียหายได้อย่างมหาศาล แต่แลกด้วยอัตราการโจมตี และพลังป้องกัน
• โจร (Thief) อาวุธที่ใช้ มีด : ถ้ามีโจรอยู่ในปาร์ตี้ด้วยจะได้รับเงินรางวัลจากการสังหารมอนสเตอร์เพิ่มขึ้น
• พระ (Monk) อาวุธที่ใช้ ถุงมือ : อาชีพที่ค่อนข้างสมดุลในทุกทาง

ระบบการเล่นในเกม เราจะเลือกดันเจียนทีจะเข้าไปสำรวจแล้ว เริ่มเดินทางในดันเจียน โดนดันเจียนจะแบ่งเป็นบล็อคๆไปให้กดเลือกทางเดิน โดยบางบล็อคจะมีสมบัติ หรือมอนสเตอร์ประจำในบล็อคอยู่ ถ้าเราพบมอนสเตอร์ตัวเกมจะตัดเข้าฉากต่อสู้ทันที เราจะได้ดูการต่อสู้ของคณะเดินทางของเรา ต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ ตอนนี้เราจะสามารถเลือกใช้ไอเทม หรือสั่งให้ถอยหนีได้ และบางครั้งเพื่อนในทีมบองจะเผลอหลับกลางสนามรบซะงั้น เราก็ต้องกดปลุกให้ตื่น

การเดินทางในดันเจียนอันมืดสลัวนั้น คณะเดินทางของเราต้องการแสงไฟในการนำทาง โดยในเกม Treasure Abyss ตัวละครของเราจะมีแต้ม Lartern หรือแสงไฟ ที่จะอนุญาตให้เราเดินทางในดันเจียนได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าแต้ม Lartern หมดเหล่ามอนสเตอร์จะแข็งแกร่งขึ้นแบบจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว และยังจะต้องเผชิญกับ”เงา”ของคณะเดินทางเองด้วย !! การเดินทางข้ามบล็อคแต่ละบล็อคจะต้องจ่ายค่า Lartern นี้ครั้งละ 3 แต้ม

การได้มาของอุปกรณ์สวมใส่ในเกม ได้มาได้ 2 ทาง คือ การซื้อจากร้านค้า หรือผสมจากไอเทมที่เราหาพบในดันเจียน ซึ่งอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูงในเกมจะได้จากการผสมเท่านั้น

ระบบ social ถูกนำมาใช้อย่างไรบ้าง ?

คณะเดินทางของเราจะประกอบด้วย ตัวละครของเรา และเพื่อนอีก 3 คน โดยตัวละครของเพื่อนจะมีความเก่งเท่าเดิมไม่ว่าเราจะเพิ่งเริ่มเล่นก็ตาม นอกจากนี้ เพื่อนของเราจะสามารถส่งไอเทมมาให้เราได้ทั้งไอเทมเพิ่มค่า Lartern และของผสม ซึ่งผมรู้สึกว่าเกมนี้ไม่ได้ดึงเอาความสามารถของ facebook มาใช้ทั้งหมดเท่าไร

ขายอะไรบ้าง ?

คิดว่าตัวเกมในตอนนี้ยังเป็น beta อยู่เลยไม่มีการโปรโมต หรือเก็บตัวเงินกันอย่างจริงจังเทาไหร่ แต่งไอเทมมอลในเกมนี้มีอยู่ 3 ชิ้นด้วยกัน คือ ไอเทมเติม Lartern 100%, ยารักษา 100% และ adventure flag (ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร = =”) ดูแล้วโมเดลหลักก็จะเป็นขาย energy

บทสรุป

โดยภาพรวมคิดว่าระบบ และเนื้อหาในเกมน่าติดตามดี ระบบการผสมที่เป็นระบบหลักในการจะได้มาซึ่งเครื่องสวมใส่ระดับสูง ก็ทำออกมาได้ดูดีทีเดียว แต่ระบบการแจ้งว่าสามารถผสมของได้ยังคงต้องปรับปรุงอยู่ แต่พวกเรื่องคอนเทนต่างๆ ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าไหร่นัก เมื่อเล่นไปได้ถึงจุดนึงจะรู้สึกติดขัดอย่างที่สุด !!! แต้มที่ให้ก็ 4 / 10 สำหรับ version Beta นี้