[ย่อยหนังสือ] Rework – คิดใหม่กับธุรกิจ by plug.in
Aug0
หลังจากอ่านหนังสือจาก Kindle อย่างเมามันส์จบไปหลายเล่ม ก็ถึงเวลามาจดไว้
เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ @mktmag แนะนำในรายการที่หามาอ่าน ซื้อมาจาก kindle
Rework นับเป็นหนังสือธุรกิจที่แหวกแนวจากหนังสือธุรกิจทั่วๆไป คือตั้งแต่เปิดอ่านคำนำมา ผู้เขียนได้ออกตัวว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนจากหลักทฤษฎี แต่มาจากประสบการณ์ล้วนๆ ซึ่งหลายๆหัวข้อผู้เขียนได้พยายามยกหัวข้อขึ้นมาขัดตำราธุรกิจอื่นๆ เพื่อให้ผู้อ่านที่อาจจะจดจำสิ่งต่างๆมาจากตำราทั่วๆไป ได้หันกลับมามองอีกครั้ง ว่าสิ่งที่เรารู้มานั้น จริงๆแล้วมันใช้ได้กับธุรกิจเราจริงๆหรือไม่
ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น
- Ignore the real world : อย่าสนใจคำพูดที่ว่า “ความคิดนี้มันใช้ในโลกจริงไม่ได้หรอก!” ส่วนใหญ่มันก็เป็นแค่ข้ออ้างที่จะหนีความจริงซะมากกว่า
- Planning is guessing : การวางแผนส่วนใหญ่มันก็การเดาดีๆนี่เอง แล้วถ้าเราเปลี่ยนการเดานั้นเป็นแผนแล้ว คุณก้ได้ก้าวย่างไปสู่เขตอันตรายแล้ว แผนที่ดีต้องเป็นแผนระยะสั้น ยืดหยุ่นได้ ปรับเปลี่ยนตามความผิดพลาดจากการเดา ของเรา
- Why grow? เรามักจะคิดว่าธุรกิจมันต้องยิ่งใหญ่ เพราะยิ่งใหญ่ มันก็ทำเราโอ้อวดได้ แต่บางทีธุรกิจขนาดเล็กก็อาจจะพอแล้ว ขอแค่มีรายได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็โอเคแล้ว
- Workaholism บ้างานเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีต่อการทำงาน “ทำงานมากกว่า ไม่ใช่ว่าจะเสร็จมากกว่า แต่คุณก็แค่ทำมากกว่า” อาการบ้างานยิ่งเป็นการสร้างปัญหาให้ผู้อื่นด้วยซ้ำไป เพราะเป็นการยิ่งกดดันให้คนอื่นๆรู้สึกรับผิดชอบที่ต้องอยู่ดึกด้วย
“Workaholices aren’t heros. They don’t save the day.they just use it up. The real hero is already home becuase she figured out a faster way to get thing done.”
- No time is no excuse : “เวลาที่สมบูรณ์แบบ มันไม่มีทางมาถึงหรอก คุณจะ เด็กไป แก้ไป ยุ่งไป จนไป และอื่นๆ ถ้ายังมัวแต่รีรอ ก็ไม่มีทางได้เริ่ม”
- Focus on what won’t change : “The core of your business should be bulit around things that won’t change . Things that people are going yo want today and ten year from now . Those are the things you should invest in. ”
-Say no by default : อย่าเชื่อว่าลูกค้าถูกเสมอ เพราะเราไม่สามารถเป็นทุกอย่างให้ลูกค้าได้ ต้องหัดพูดว่าไม่ เพื่อเราจะได้เดินตามทางที่สินค้าเราควรจะเป็นจริงๆ
- Don’t write it down: เมื่อต้องรับปัญหาจากลูกค้า เราไม่จำเป็นต้องจดทั้งหมด เพราะอะไรที่สำคัญจริงๆ เดี่ยวเราก็ได้ยินบ่อยจนจำได้เอง
- Drug dealers get it right : พ่อค้ายากล้าพอ และรู้ดีว่า สินค้าของเค้าดีพอ ที่จะให้ฟรี แต่ไม่ขาดทุน – ถ้าของเราดีพอ อย่ากลัวที่จะยอมให้ฟรี
- Do it yourself first : ก่อนจะจ้างใครทำงานอะไร เราควรจะลองทำเองก่อน จะได้รู้ธรรมชาติของงานนั้น จะได้รู้ว่าจริงๆเราต้องการอะไรแน่ ก่อนจะเริ่มจ้างคน
- ASAP is poison : ทุกคนก็อยากได้งานของตัวเองเร็วสุดทุกคน แต่เก็บสิ่งที่สำคัญไว้ใช้ยามที่สำคัญจริงๆ
- Meeting is toxic : Interrupt ที่แย่ที่สุดคือการประชุม ด้วยเหตุผลต่างๆเช่น ส่วนใหญ่จะคุยกันแต่เรื่องเลื่อนลอย ประชุมกันก็ออกทะเลได้ง่ายมาก , มักต้องกินเวลาทุกๆคนที่ไม่มีเวลา , มักจะมีสักคนที่ดึงเวลาให้เสียเปล่าเสมอ , มักไม่จบในครั้งเดียว.. ถ้าจำเป็นต้องประชุมจริงๆ ลองแก้ด้วยวิธีต่างๆเช่น ตั้งนาฬิกา , เรียกคนให้น้อยที่สุด , กำหนดเวลาให้แน่นอน, เมื่อประชุมเสร็จ assign คนรับผิดชอบด้วย
ยังมีอื่นๆที่น่าสนใจอยู่อีกเยอะ ถ้าใครสนใจก็ลองหาอ่านกันได้นะครับ
ที่มา
บั๊กของ Flash CS4 ในการสร้าง Component ของ Flex และการลงส่วนเสริมอื่นๆ by plug.in
Jul0
Flex Component Kit เป็นอุปกรณ์ช่วยสร้าง component ของ Flex จากใน Flash ซึ่งลักษณะของเจ้าตัวนี้จะเป็นโครง Template ของ Component ต่างๆใน Flex เช่น ปุ่ม , tab และอื่นๆ ซึ่งสามารถใช้ Flash แก้ไขได้ และนำกลับมาตกแต่งใน Flex ให้สวยงามได้ไม่ยากเย็นนัก
ปัญหาคือเจ้าตัว Flex Component Kit นี้มันเคยใช้ได้ดีใน CS3 แล้วมันดันลงใช้ใน CS4 ไม่ได้นี่ซิ ทำไงดีหล่ะ = =”
[Linux] ค้นหาไฟล์ที่ต้องการ by plug.in
Jul0
สำหรับ entry นี้จะฝากคำสั่งที่หลายๆคนอาจจะตามหาอยู่ สำหรับการหาไฟล์บน linux
find
เป็นคำสั่งพื้นฐานในการค้นหาไฟล์ หรือโฟลเดอร์ที่เรากำลังค้นหาอยู่บนระบบปฎิบัติการ linux
ตัวอย่างการใช้งาน
find /path/to/ -name filename => หาตามชื่อไฟล์
find /path/to/ -type f -size +1024k=> หาตามขนาดไฟล์ (มากกว่า 1024kB /1 MB)
ฝากไว้แค่นี้หล่ะกันครับ :p
source : Find files larger than a given size in Linux | Tips4Linux.com.
HTML5 – มีอะำไรใหม่บ้าง? by plug.in
Jun1
HTML5 เป็นมาตราฐานนึงที่นักพัฒนากำลังพยายามผลักดันขึ้นมาแทนที่ HTML4 เดิมที่ใช้กันมากว่าสิบปีแล้ว ซึ่งค่อนข้างล้าสมัย ซึ่งความพยายามในการผลักดันมีกันมานานพอสมควร แต่ติดปัญหาใหญ่ๆอย่าง ปัญหาผู้ใช้งานไม่อัพเกรด Browser แล้ว Browser แล้วเจ้าต่างพัฒนากันไปคนละทาง ทำให้ปัจจุบันยังไม่มีวี่แววว่า HTML5 จะได้เป็นมาตราฐานที่ใช้งานได้จริงเมื่อไหร
จนกระทั่งช่วงหลังมาเกิดแรงผลักดันจากหลายๆฝ่าย โดยเฉพาะที่เห็นกันอย่างชัดเจนคือ สงครามน้ำลายระหว่าง Apple และ Adobe ในปัญหาเรื่อง Flash บน iPad/iPhone ทำให้ HTML5 ถูกดึงมาเป็นประเด็นที่กล่าวถึงกันมาก จนนักพัฒนาทั้งหลายกลับมาให้ความสนใจกันมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีผลทำให้ HTML5 อาจจะได้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในเร็วๆวันนี้
HTML5 ที่เี่ราๆพูดถึงกันนั้น จะประกอบด้วยส่วนหลักๆ สามส่วนคือ
- HTML5 ที่มาพร้อมกับ Tag html ใหม่ๆ
- Javascript API มาตราฐานใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามา
- CSS3 ลูกเล่นเพิ่มเติม เช่น Animation